วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ซุปเปอร์ดีแม็ก SuperDmaxx สุดอยอดสมุนไพรสำหรับท่านชาย

ซุปเปอร์ดีแม็ก SuperDmaxx ยืนหนึ่งมาตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี  เนื่องจากสรรพคุณที่ตอบโจทย์ความต้องการของท่านชายได้อย่างตรงไปตรงมา เพียงทาน 1 แคปซูลท่าจะรู้เลยว่าการเปลี่ยนไปของท่านเป็นที่ประทับใจของคนรอบข้างได้อย่างแน่นอน

สั่งซื้อและดูรายละเอียดได้ที่ www.superdmaxxx.com  www.superdmaxx.com



ซุปเปอร์ดีแม็ก superdmaxx อาหารเสริมชาย เพิ่มขนาด เสริมพลัง

ซุปเปอร์ดีแม็ก superdmaxx อาหารเสริมชาย เพิ่มขนาด เสริมพลัง อึด ทน นาน เห็นผลใน 30 นาที

ซุปเปอร์ดีแม็ก superdmaxx สุดยอดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารท่านชายที่หลายคนมิอาจปฏืเสธได้  



ซุปเปอร์ดีแม็ก SUPER D-MAXX
อาหารเสริมเพื่อสุขภาพท่านชาย

สินค้าของเราเป็นสินค้าใหม่ล็อตการผลิตล่าสุดที่ยังไม่หมดอายุ และคุณภาพยังเต็มเปี่ยม และมีสัญลักษณ์พิเศษ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นของแท้แน่นอน จากจากโรงงานผู้ผลิต

บริการส่งฟรี มีของแถมให้ทุกการออเดอร์

ไคลแม็ก Climax สมุนไพรเพิ่มสมรรถภาพจากเยอรมันนำเข้า

ไคลแม็ก Climax ถ้า จะพูดถึงความสำคัญของการฝากลิงก์ (Backlink) หรือการสร้างลิงก์กลับมาหาเว็บของเราเอง เพื่อทำให้ Search Engine อย่าง Google จัดอันดับ Ranking เว็บเรา หรือเห็นความสำคัญเว็บของเรามากขึ้น ผมก็ไม่รู้จะกล่าวถึงความสำคัญของ Anchor Text (แอง-เกอร์-เท็คส์) ได้หมด อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่ามันเป็นลิงก์ประเภทเดียวที่มีค่าต่อการทำ Ranking ซึ่งก็คือมีลิงก์กลับมาที่สร้างจาก Keywords อย่างเช่นลิงก์ต่อไปนี้ SEO ที่เกิดจากบทความใน พูดถึง SEO ใช้ Keyword: SEO แล้วโยงลิงก์ไปยัง Landing Page ที่พูดถึง SEO นี่คือ Anchor Text Link ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่จะใช้โค้ด
ถ้าฝากลิงก์ที่อื่นๆ มันก็จะมีความหมายต่อ Search Engine ไม่มากอะไร เพราะมันไม่ได้มาจากหน้าที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Keyword เยอะเท่าหน้าบทความแน่นอน สิ่งที่ต้องระวังก็คือ บางที่จะให้คุณลิงก์ได้จริง แต่ไม่ให้ทำ Anchor Text หรือแย่ไปกว่านั้นเว็บทั้งเว็บเป็น NoFollow (กั้กพลังลิงก์เอาไว้ไม่ให้เราได้อะไรเลย) ดังนั้นจะหาที่ไหนได้บ้างล่ะไอ้ที่ๆ จะไปฝากลิงก์แบบนี้ได้ ที่ได้ทั้ง DoFollow และ Anchor ไคลแม็ก Climax  ยาเพิ่มขนาดท่านชาย

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ถ้าเป็นเว็บเมืองนอก ก็ต้องใช้เว็บ Article Directory ฟรีๆ อย่าง eZinearticlesc.com ที่ให้คุณเขียนบทความส่งไป แล้วก็ใส่ลิงก์ไว้ในบทความได้ แต่การใช้ Anchor Text ลิงก์นั้นก็จะมีกฏหลายอย่าง เช่น ห้ามมีลิงก์เยอะเกินไป หรือสร้างลิงก์กับ Keyword ยาวๆ หลายๆ คำ อย่าง Long Tail Keyword ไม่งั้นบทความมันก็จะดูสแปมทำให้เว็บเขาดูสแปมที่จะทำให้เกิดการล่มสลายของ เว็บที่รับฝากลิงก์ได้ในระยะยาว เช่น ถ้าบทความสั้นกว่า 400 คำ Anchor text link แต่ละลิงก์ ก็ไม่ควรใช้กับ Keyword ที่เยอะเกิน 3 คำ และถ้าสั้นกว่า 500 ก็ห้ามเกิน 5 คำในครั้งเดียว (พูดถึงแต่ละลิงก์นะครับ เช่น 5 คำอย่าง how to make money online) จ่ายหรือฟรีกระจายบทความ + ลิงก์

ไคลแม็ก Climaxที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ Article Directory บางที่อย่าง iSnare.com จะมีบริการกระจายบทความ + ลิงก์ให้คุณไปยัง Article Directory อีกหลายที่ (ยกเว้น ezine) หลังจากคุณซับมิทบทความกับเขาไป ที่จ่ายเป็นเครดิต หรือคุณจะ refer ให้คนอ่านเข้ามาจ่ายเงินคุณก็สามารถได้เครดิตไปฟรีๆ เอามาใช้กับเว็บคุณได้ อ่านรายละเอียด และก็บริการแบบเสียเงินที่ผมว่าไม่คุ้มนัก เพราะเราสามารถทำเองได้อยู่แล้วกับซอฟท์แวร์ Article Submitter  ยาเพิ่มขนาดท่านชาย ต่างๆ อยู่แล้ว แต่จะใช้คุณก็ต้องรู้ก่อนใช้ด้วยว่าเว็บ Article ไหนที่ฝาก Anchor Text ได้หรือไม่ได้ และฝากที่ไหนแล้วประโยชน์ที่สุดที่ดูจาก PR สูงๆ ดูกันเลย:Bio = Biography หรือส่วนของข้อมูลส่วนตัวผู้เขียนบทความที่คุณสามารถใส่ลิงก์ได้เช่นกัน แต่ต้องดูประเภทของลิงก์ Bio Link Type ด้วยว่าให้ทำ Anchor Text (HTML) ได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้แต่ในบทความใส่ได้ก็โอเคนะแล้วเว็บ Press Release ล่ะ?

ไคลแม็ก Climax หลายคนลืมอีกอย่างไป ยังมีเว็บอีกแบบที่ให้คุณเอาบทความไปฝากแล้วแปะลิงก์ไว้ได้อีกมากมาย ซึ่งก็คือเว็บฝากข่าวหรือ Press Release Web Site นั่นเอง ดูลิสที่นี่ Press Release List (หรือค้นดูใน Google ก็จะพบอีกมาก) ของไทยก็น่าจะมี thaipr.com ใครมีลิสมากจากนี้ (ของไทยนะ) เอามาแชร์กันบ้างนะครับ Article Directory ของคนไทย ยาเพิ่มขนาดท่านชาย

ไคลแม็ก Climax ถ้าเว็บคุณเป็นเว็บภาษาไทยล่ะ คุณจะเอาไปโปรโมทแบบ Article Marketing ที่ไหนได้บ้างล่ะ จะว่าไปถ้าเป็น Article Directory ของไทยที่ให้คุณสร้าง Anchor Text Link ได้ก็ถือว่ายังมีน้อยมากๆ ที่ผมเคยเห็นก็น่าจะมี เช่น dek-d.com, kai-ka.com (ของเพื่อนๆผมเอง) คุณล่ะ รู้จักเว็บ Article Directory ที่ไหนดีๆ บ้าง ของไทยล่ะ รู้บ้างไหม เอามาแชร์กันหน่อยจะช่วยคนอื่นได้อีกมากเลยครับ

กาแฟวันแมน กาแฟวันแฟน วันแมนคอฟฟี่ กาแฟผุ้ชายเพื่อสุขภาพ

สำหรับท่านชายที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบของกาแฟที่ช่วยเพิ่ทสมรรถภาพของท่านชายได้อย่างรวดเร็ส และช่วยในการรับประทานให้ง่ายขึ้น กว่าการทานแบบเม็ดเพราะคนส่วนมากไม่ชอบการทานยา ดังนั้นจึงมี กาแฟวันแมน กาแฟวันแฟน วันแมนคอฟฟี่ กาแฟผุ้ชายเพื่อสุขภาพ ออกมากเพื่อให้ท่านได้เลือก 

อาหารเสริมชาย ของดีที่ไม่มีคนใช้ Google Local Business

อาหารเสริมชาย ของดีที่ไม่มีคนใช้ Google Local Business

อาหารเสริมชาย  หลายครั้งที่เราค้นหาห้างร้าน บริษัท หรือสถานที่เที่ยวต่างๆ เดี๋ยวนี้เรามักจะเห็นผลลัพธ์การค้นหาที่ไม่ได้เป็นแค่เว็บอย่างเดียวอีกต่อ ไป แต่จะมีที่เห็นชัดๆ คือ ภาพ วีดีโอ และแผนที่ ซึ่งตรงแผนที่ๆ นี่เองที่เจ้าของบริษัทห้างร้าน หรือแม้แต่คนธรรมดาที่เป็นเจ้าของเว็บเล็กๆ สามารถใช้ประโยชน์ในการโปรโมทเว็บบน Google แบบฟรีๆ หรือทำอันดับบน Google ขึ้นหน้าแรกแบบทางลัดได้ สิ่งที่ต้องทำก็แค่เข้าไปซัพมิทเว็บ และให้ข้อมูลธุรกิจตัวเองกับ Google Local Business แค่นี้เองครับ จากภาพด้านล่างผมค้นหาคำว่า “Bangkok Hotels” ซึ่งคุณจะเห็นผลลัพธ์การค้นหาที่ผมนำเอามาให้ดูนี้ มันคือ Google หน้าแรก โรงแรมไหนก็ตามที่ซัพมิทกับ Google Local Business เอาไว้และมี review มีดาวเยอะๆ และคู่แข่งก็ยังไม่ได้ทำกันเยอะ (ยังไม่ได้ซัพมิท Local กันเยอะมาก) ก็ทำให้ได้มาอยู่หน้าแรกได้เช่นกัน แถมมีข้อมูลให้ลูกค้าดูได้ อาหารเสริมชาย  พร้อมแผนที่อีก โดยไม่ต้องทำ SEO มาก่อน
วิธีใช้ google local business google map submit
อ้อ แต่อย่าลืมว่าเวลาซัพมิท ต้องเตรียม ข้อมูลของคุณให้พร้อม ตั้งแต่ที่อยู่ อีเมล ที่ตั้งบริษัท และที่สำคัญที่สุดคือเบอร์โทรกลับไว้ activate ด้วยนะครับ (Google จะให้หุ่นยนต์พูดได้ส่งโค้ดตัวเลขมาให้ เพื่อให้คุณเอามากรอกใส่ตอนซัพมิทขั้นตอนสุดท้าย) ถ้าคุณเป็นบริษัทก็ควรจะนั่งอยู่ที่บริษัท เพราะเบอร์โทรนี้คนที่ใช้ Google จะสามารถมองเห็นและติดต่อคุณได้ จบขั้นตอนนี้ทั้งหมดลูกค้าก็จะมีทางเพิ่มขึ้นอีกทางในการเข้าถึงคุณได้อย่าง ง่ายดายบน Google ที่มีคนนับล้านใช้ค้นหาสินค้า หรือข้อมูลในแต่ละวัน อาหารเสริมชาย 
ไม่ว่าคุณจะขายอะไร หรือทำอะไร เพียงมีเว็บ ของดีของฟรีอย่าง Google Local Business แบบนี้ ไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ก็แปลกล่ะ ซัพมิทกันได้เลยวันนี้ที่ Google Local Business
Click to play this video
Introducing Google's Local Business Centre

บีบีแม็ก bbmaxx ยาเพิ่มขนาดใหญ่ยาว อึด ทน

บีบีแม็ก  bbmaxx  คุณรู้จักไหมครับ คำว่าทะลึ่ง มันมีอยู่ด้วยกันสองความหมาย อันแรกคือ..ลามก และอันที่สองคือ ส่อหาเรื่อง (อันนี้ผมคิดเอง) แบบว่าของมันอยู่ของมันดีๆ ชอบไปซ่อมมัน เหมือนอย่างเว็บหนึ่งของผม รายได้กำลังมาเลยทีเดียวประมาณวันละ 5 เหรียญเปิดมาได้ 2 เดือน (adsense) อยู่ๆ ก็ไปหาเรื่อง หา plugin โน่นนี่มาลงไอ้แบบที่ไม่รู้จัก ไม่คุ้นแต่โลภอยากให้มันติด rank ดีขึ้น แทนที่จะเอาไปลองกับเว็บหลอกๆ ก่อน ดันลุยจริงเลย เช้าตื่นขึ้นมา Google Webmaster Tools ขึ้นเลยว่า 4,000 กว่าลิงก์ Not Found! Traffic หายจ๋อม เงินหายเกลี้ยง เอาล่ะสิทำไง ไอ้ Plugin บ้านี่ ที่ผมเอามาลงดันเปลี่ยน permalink ซะหมดเลยแบบไม่เตือนกันเลย หลังจาก อีเมลไปด่าเจ้าของ plugin เล็กน้อยก็ได้สติเริ่มมาแก้ไขกัน บีบีแม็ก  bbmaxx ทางออกหลัง Permalink เปลี่ยน

1. อีเมลบอกโฮสติ้ง หรือถ้ามี Backup Database ก็ restore ซะให้ด่วน
2. ถ้าลิงก์ใหม่มันจะมีผลดีในระยะยาวก็ปล่อยมัน แล้วใช้ Fetch As Googlebot
Fetch As Googlebot?

บีบีแม็ก  bbmaxx  ชื่อฟังดูแผลงๆ ใครล่ะจะกล้าใช้ ผมนี่แหละที่ชอบเล่นแผลงๆ ทำให้ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันเอาไว้บอกกับ Google ว่า ช่วยมา Index เว็บใหม่ทั้งหมดที เพราะลิงก์เก่าไม่เอาแล้ว หลายคนอาจเคยนึกว่าแค่เอา link ไป add url ตาม Search Engine ใหม่ บอกไว้เลยว่าอย่าทำ ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น Fetch นี่แหละชัวสุด มันอยู่ใน Google Webmaster Tools ไม่ว่ากรณีเว็บเปลี่ยนโครงสร้างลิงก์ เปลี่ยน Sub Directory ใช้ได้หมด มันจะทำให้ Google รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคุณได้เร็วกว่าปล่อยไว้เฉยๆ เพราะถ้าเว็บคุณไม่เด่นดังก็รอไปเถอะ ถึง google จะเปลี่ยนให้แล้วหลังจากเดือนผ่านไป ก็ยังจะมีลิงก์ not found ให้เห็นอยู่เต็มใน Google ใช้ตัวนี้ เร็ว ชัวร์ กว่า อ้อ จากนั้นอย่าลืม submit sitemap.xml ใหม่จากใน GWT ด้วยครับ


บีบีแม็ก  bbmaxx  วิธีใช้ก็ไม่ยาก ถ้าเป็นทั้งโดเมนก็คลิก Fetch ได้เลย จากนั้นคลิกที่ลิงก์ Submit Index > จากนั้นเลือกออฟชั่นขวาตามภาพเพื่อเลือกให้ Fetch ใหม่ทั้งเว็บทีเดียวไปเลย แต่ถ้าจะทำแค่ sub directory บางส่วนก็ใส่เข้าไปในช่องแล้วทำเหมือนกัน สุดท้ายหมั่นเข้าไปดูใน Webmaster Tools กันบ้างนะครับ มันคือแหล่งรวมความลับการทำ Rank ที่ไม่มีใครอยากมาบอกกันเท่าไหร่
You may also like


doublemaxx ดับเบิ้ลแม็ก ของแท้จากรายการ TV บริษัท

doublemaxx ดับเบิ้ลแม็ก  คุณมี Dropbox มากกว่า Dropbox บน iCloud หรือไม่? ลองพูดถึงการกระทำบางอย่างในวันนี้ เนื่องจากไม่มากนักจึงเริ่มต้นด้วยคำถามก่อนหน้านี้ว่าคุณได้ถ่ายภาพอย่างหนักเพื่อเรียกร้องเพื่อสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการทำลายที่จัดเก็บอยู่ในการ์ด SD และคุณไม่เคยรู้ ฉันต้องส่งไฟล์ให้เพื่อนของฉัน แต่คุณใช้บริการฟรีอยู่แล้ว แต่อย่าลืมอัปโหลดไฟล์บางไฟล์ออกจากไซต์เพื่ออัปโหลดไฟล์ฉันพบว่ามันยากที่จะสมัครเพื่อเปิดเบราเซอร์ ฉันใช้มันเพื่อแบ่งปันไฟล์กับเพื่อนของฉัน หรือทำซิงค์โฟลเดอร์เองจากความคิดเห็นของหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ปัญหาคือถ้าฉันได้ยินหลักการ Dropbox Cloud นี้ฉันได้ใช้ Dropbox ฟรีหรือแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซอฟต์แวร์ Dropbox ออนไลน์ออนไลน์ส่วนใหญ่ของโลกเท่าเทียมกันดีเท่าที่ควรจะเป็นเพราะอาจจะดีกว่า นี่เป็นซอฟต์แวร์ฟรี

ดับเบิ้ลแม็กซ์ doublemaxx ดับเบิ้ลแม็กพรีเมี่ยม  Dropbox ขนาด 2 GB หรือทั่วไปหรือไม่? ไม่ได้นี่คือตัวป้องกัน Nodovirus คุณไม่ซ่อนแถบงานที่คุณต้องการใช้ทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนสายตาของเราและคลิกเพื่อเป็นเจ้าของ ที่ทำให้ฉันมีชื่อเสียงจริงๆสิ่งที่แตกต่างก็คือ synchronous มันทำงานอยู่ในโฟลเดอร์ที่คุณต้องการให้มันทำงาน ยังไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ของคุณอย่างหนักคุณลากไฟล์ที่เก็บไว้ในไฟล์ที่ย้าย นี่ไม่ใช่ไฟล์แบบหล่นลงโปรดตรวจดูให้แน่ใจว่าไฟล์ถัดไปจะไม่ถูกลืม ดำเนินการไฟล์อื่น ๆ ที่ขาดหายไป โอ้นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ความสามารถของ Dropbox ยังมีพื้นที่ว่างในการอ่านไฟล์ถาวร (สูงสุด 8-10 GB) บนโทรศัพท์มือถือของคุณนอกจากนี้ยังมีโฟลเดอร์ซิงโครไนซ์โฟลเดอร์ซิงโครไนส์โฟลเดอร์ท้องถิ่นของ

ดับเบิ้ลแม็กซ์  doublemaxx ดับเบิ้ลแม็ก  Manager ในโฟลเดอร์ท้องถิ่นเพื่อเชิญผู้ใช้รายอื่น โฟลเดอร์แชร์ไฟล์ iTunes Library คอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่ขโมยการกู้คืนหน้าแรก / เว็บไซต์การรักษาความปลอดภัย Office / แชร์กับไฟล์โฮสติ้ง PHP สร้าง Keep เก็บโปรไฟล์ Firefox ของคุณเป็น Dropbox ด้วยการซิงค์ดังนั้นโปรดดาวน์โหลดการผสานรวม . Hazel สำหรับทดสอบและพัฒนา [Mac] ซิงค์กับไดเรกทอรี XAMPP / MAMP ให้ Dropbox และ Eye-Fi สำหรับภาพทันทีเพื่อแสดงส่วนแบ่งการแบ่งปันหน้าจอโดยอัตโนมัติพร้อมกับไฟล์ torrent และการเปิดตัวการดาวน์โหลดอัตโนมัติโดยใช้ Dropbox Portable Sink

ดับเบิ้ลแม็กซ์ doublemaxx อาหารเสริมชายดับเบิ้ลแม็ก  การทำปฏิทิน Dropbox ของคุณ iCal Dropbox จำนวนมาก การควบคุมเวอร์ชัน OneNote Sync และการทำงานร่วมกัน [Victory] (เช่น Photoshop Presets,) ส่วนเสริมของ Text Extension Synchronize ทรัพยากรการออกแบบ / การพัฒนา Synchronize Shutdown รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Hazel หรือ Sleep [Mac] Remote Hazel [Mack] Avatar Public ·ใช้ลิงก์เพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์ . การเปลี่ยนรหัสผ่านเข้าสู่ระบบแชทแบบรวดเร็วจะส่งไฟล์ไปยัง Dropbox พร้อมด้วย Grunts และแก้ไขการแจ้งเตือน Mail Synchronization คลิปบอร์ด Sync Cooker หนังสือ Plugins & Site Preview ในกรณีที่เป็นไฟล์

VPS Hosting คืออะไร

VPS Hosting คืออะไร



VPS ย่อมาจาก Virtual Private Server แปลว่าเป็น Server ส่วนตัวแบบเสมือน งงล่ะสิ … แปลเป็นภาษาคนอีกที หมายความว่า เป็น Server ของเราเอง แต่ว่าไม่ใช่ Server จริงๆ จับต้องได้นะครับ แต่เป็น Server จำลอง อยู่ใน Server จริงๆ อีกทีนึง
หลักการคร่าวๆ คือ เจ้าของเครื่อง Server จะใช้โปรแกรมแบ่งเครื่อง Server ตัวเอง ออกเป็นเครื่องเสมือนย่อยๆ หลายๆ เครื่อง ทรัพยากรของ Server เช่น แบ่ง RAM แบ่งฮาร์ดดิสก์ แบ่ง CPU ของแต่ละเครื่องเสมือนออกจากกัน ซึ่งข้อดีสำหรับการใช้ VPS มีดังนี้ครับ

1. มี Server เป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์
เราจะเหมือนเป็นเจ้าของ Server เองเลย เราจะมี IP เป็นของตัวเอง ไม่ต้องแชร์กับใคร สามารถลงโปรแกรมอะไรได้ตามต้องการ ไม่ต้องรอ หรือง้อให้เจ้าของโฮสท์มาลงให้ จะใช้เครื่องเดียวนี้เปิดเว็บสักกี่โดเมน กี่ซับโดเมน ก็แล้วแต่เรา การที่เรามีเนื้อที่ มี CPU มี RAM เป็นของเราเองจะดีกว่า Shared Host คือไม่ต้องแบ่งใคร ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าเว็บคนอื่นจะมาทำให้เว็บเราช้า หรือเราจะไปกวนเว็บคนอื่นจนต้องโดนเตะออกจากโฮสท์ ถึงเขาจะบอกว่า unlimited แต่ถ้าใช้เยอะๆ เขาก็เตะออกอยู่ดีครับ
2. สำหรับคนอยากได้ Dedicated Host แต่งบน้อยกว่า
เนื่องจาก VPS เป็นการเอาเครื่องจริงๆ มาจำลองเป็นเครื่องเสมือนหลายๆเครื่อง จึงทำให้การเช่า VPS มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเช่า Dedicated Server และบางที่ก็ราคาพอๆและถูกกว่าการเช่า Shared Host อีกต่างหาก
3. ดูแลง่าย
ถึงแม้จะเหมือนมี Server ของเราเอง แต่การดูแลง่ายกว่าการมี Server จริงๆ เพราะว่ามันเป็น Server เสมือน ซึ่งคล้ายกับเป็นโปรแกรมตัวนึง ทำให้สามารถสั่งรีบู้ต ปิดเครื่อง เปิดเครื่อง ผ่านทางหน้าเว็บได้เลย โดยไม่ต้องมีคนไปกดปุ่มที่หน้าเครื่องเหมือน Server จริง จะแบ็คอัพก็ทำผ่านหน้าเว็บได้เลย ไม่ต้องเอาเทปไปเปลี่ยน ไม่ต้องถอดๆ ใส่ๆ ฮาร์ดดิสก์
การเลือกเว็บโฮสติ้ง VPS ผมว่ามันเหมาะกับเว็บที่เริ่มมี Traffic เยอะขึ้นอย่าง 4000 visits ต่อวันขึ้นไปก็เริ่มน่าพิจารณาแล้ว ไม่งั้น Traffic ที่เข้ามาจะเริ่มพบกับความอืดอาดของการโหลดเว็บคุณ และ การเลือกเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นบริการหลักๆ สองแบบ
1. Managed
เป็นบริการโฮสติ้ง VPS ที่ติดตั้งทุกอย่างมาให้คุณแล้ว เช่น cPanel, DirectAdmin หน้าควบคุมการทำงานโฮสที่คุณจำเป็นต้องใช้ ไม่ต่างจากบริการ Shared Hosting ทั่วไป เพียงจะแรงกว่า ทำงานได้ดีกว่า ไม่มีคนแย่งทรัพยากรมากเกินไป ตามแบบฉบับ VPS Hosting การเลือกแบบ Managed VPS แน่นอนว่าต้องแพงกว่าแบบ UnManaged
2. UnManaged
ถ้าคุณอยากได้ความแรงอย่าง VPS แต่งบน้อย การเลือก UnManaged ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีของคุณ แต่ถ้าอยากได้ VPS ในราคาถูกกว่าก็ต้องใช้ความสามารถในทำงานเพิ่มขึ้นกันหน่อย นั่นคือการที่คุณจะต้องเป็นคนติดตั้งซอฟท์แวร์เพื่อควบคุมการทำงานของ VPS ของคุณเองทั้งหมด ดังนั้นนอกจากเงินน้อยแล้ว คุณจะต้องแน่ใจว่าคุณนั้นมีประสบการณ์ในการติดตั้ง VPS ด้วย ซึ่งอาจไม่ยากอย่างที่คุณคิด เพราะมันขั้นตอนและวิธีมากมายให้คุณหาได้จาก Google
สิ่งที่คุณจะได้จากบริการ VPS Web Hosting Server
  • ระบบแม่ข่ายจำลองเสมือนเป็น Server ของตนเอง
  • ประสิทธิภาพสูงและเสถียรกว่า Shared Hosting เพราะไม่ต้องแบ่งทรัพยากรการใช้งานกับใคร
  • สามารถ ปรับเปลี่ยน Configurations ของซอฟท์แวร์ต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น Apache, PHP, MySQL, DNS, FTP, Postfix และ อื่นๆ
  • เป็น Admin เครื่องสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ
  • สามารถสร้าง Reseller หรือขาย Reseller ได้ (แล้วแต่ที่บริการ)
  • มีระบบ สำรองข้อมูล ที่ดีที่สุดสามารถกู้ข้อมูลกลับให้ server ทำงานได้ภายใน 1 ชั่วโมง
  • สามารถติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
  • มี IP Address เป็นของตนเอง (แล้วแต่ที่บริการ)
  • ราคาประหยัดกว่านำเครื่องไปวางเองอย่าง Dedicated หรือผู้ให้บริการโฮสที่ต้องทำกัน
  • มี Root Password ให้คุณจัดการ Host อย่างอิสระ
  • Server หลักประสิทธิภาพสูงแรมสูงถึง 8 GB
  • มี Nameserver , DNS Server เป็นของคุณเอง
ราคา VPS 
ราคาการเช่า VPS Hosting ในปัจจุบันนั้น ถูกลงมากมาย เพราะช่วงนี้ ผู้ประกอบการ (ในต่างประเทศ) หลายเจ้าก็ขยันลดราคากันเหลือเกิน ถูกสุดที่ผมเห็นก็ $30 ครับ แพงสุดก็ 300$ บริการพวกนี้จ่ายแค่ไหนก็ได้เท่านั้นแหละครับ คุณภาพจะค่อนข้างตามราคา
ถ้าใครที่ต้องการศึกษาระบบการทำงาน ทดลองเขียนสคริป หรือแม้แค่อยากทดลองใช้ก่อน ผมแนะนำ VPS นอกครับ (ไม่แนะนำของไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า VPS ในไทยส่วนใหญ่ เป็นแบบ Managed ถ้าเราไปปรับอะไรจนเจ๊ง ก็อาจเสียเงินค่าลงระบบใหม่ประมาณ 500 บาท (แล้วแต่ที่เหมือนกัน) แต่ถ้าของต่างประเทศราคาถูกๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Unmanaged ผู้ให้บริการจะไม่ยุ่งอะไรกับเราเลย ถ้าพังหรือล่ม เราก็ Rebuild เองมาใหม่อีกรอบได้ เพราะเขามี Control Panel ให้เข้าไปควบคุมอยู่แล้ว แต่ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก่อนนะครับ ไม่งั้นจะยุ่งกันใหญ่ คนที่เช่า VPS คือคนที่จะหาประโยชน์จากมันได้จริงๆ รู้ว่าคุณจำเป็นต้องใช้แล้วค่อยซื้อ

ศูนย์รวมเครื่องมือ SEO ฟรีๆ

ศูนย์รวมเครื่องมือ SEO ฟรีๆ


หลายครั้งที่ผมจะพบว่าซอฟท์แวร์ SEO หรือซอฟท์แวร์พวกเอาไว้วิเคราะห์เว็บเพจที่ซื้อมาราคาแพงๆ ไม่สามารถช่วยงานผมได้ บางทีแค่อยากทำนิดเดียวมันทำซะเยอะ ไอ้ที่อยากให้ทำดันทำไม่ได้ แต่ดันไปทำอะไรที่ไม่อยากให้ทำ เซ็งจริง จนผมต้องใช้วิชา Google เสาะหาของฟรีๆ มาใช้ ซอฟท์แวร์มือโปรบางทีก็ตกม้าตายได้เหมือนกัน
Power Tools as a Pastime
บางทีผมก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงเอาเครื่องมือวิเคราะห์เว็บดีๆ แบบนี้มาให้ใช้กันฟรีๆ แบบไม่มีอะไรแอบแฝง ใช้ง่าย ไม่งอแง แม้แต่อีเมลก็ไม่ต้องกรอก ดีแฮะ และวันนี้ผมจะเอาเครื่องมือที่ว่าพวกนั้นมาแบ่งปันความรู้ให้่ทุกคนได้ลอง เอาไปใช้กันบ้าง เผื่อจะชอบเหมือนกับผม

Web page analysis tools

ก่อนที่ขั้นตอนการทำ SEO จะเกิดขึ้นได้อย่างมั่นใจ เราก็ต้องวางแผน และการวางแผนทำ SEO ก็คงจะขาดเจ้าซอฟท์แวร์วิเคราะห์เว็บเพจแบบนี้ไปได้ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะมันจะทำให้เรารู้ถึงจุดเด่นจุดด้อยของเว็บเพจแต่ละหน้าก่อนที่จะลงมือ ทำจริง ไอ้ที่มันดีอยู่แล้วจะได้ไม่หายไป และอะไรที่เรายังไม่มีมันจะได้พัฒนาเพิ่มขึ้นมา
ซอฟท์แวร์สมัยนี้ดีหน่อย มีแบบที่ไม่ต้องติดตั้งบนเครื่องที่เรียกว่า Web base ที่จะใช้ระบบปฎิบัติการอะไรก็ได้ ไม่สน ไม่เกี่ยว เพราะมันใช้บนเบราเซอร์เหมือนเปิดเว็บทั่วไปนั่นเอง ตัวอย่างเช่น Google Doc
การวางแผนทำ SEO จะต้องเริ่มต้นจาก Keyword ที่ต้องการตั้งเป้าหมายก่อนว่าจะให้หน้าที่เว็บเพจแต่ละหน้าดัน Keyword คำไหน จากนั้นก็จะเป็นการดูเรื่องความจำกัดทางด้านเทคนิคของเว็บเพจทั้งหมด ว่ามีอะไรให้เราซ่อมและแก้ไขก่อนจะเริ่มทำอันดับให้มันบ้างไหม ตั้งแต่ Meta Tags ไปถึงโค้ดตัวสุดท้ายที่ Footer
แต่อย่าลืมว่าหน้าที่ของซอฟท์แวร์วิเคราะห์ความวิปริตผิดแปลกหรือความดี พร้อมของเว็บยังมีอีกอย่างคือใช้มันเหมือนกับการดูเฉลยข้อสอบการทำ SEO ของเรานั่นเอง ทำไปแล้ว keyword density เป็นไงบ้าง ต้องใส่เพิ่มตรงไหนอีก หรือมีอะไรไปสร้างปัญหาให้ Google บ้าง ฯลฯ ไม่งั้นทำไปก็เหมือนไม่มีใครมาตรวจงานให้ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าดีพอแล้วหรือยัง
เครืื่องมือที่จะช่วยเรื่องแบบนี้ได้ก็จำเป็นรองรับได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษด้วยถึงจะเรียกว่าใช้ได้ อย่างที่เห็นกันมาเยอะเครื่องมือส่วนใหญ่พอใส่ภาษาไทยเข้าไปก็รวนกลายเป็น ซอฟท์แวร์กระจอกทันที อย่างซอฟท์แวร์ IBP นั่นเอง และเครื่องมือช่วยวางแผนทำ SEO ที่พักหลังช่วยผมวางแผนทำ SEO ได้มากมายก็คือ:
1. Visible.net – Web based tools
Web site analyzer ซอฟท์แวร์
Analyzer Tool – จะรายงาน On-Page ต่างๆ ตั้งแต่ Meta Tags, Heading, HTML errors, Bad links, ลิงก์ทั้งหมดที่ออกไปที่อื่นว่ามีอะไรบ้าง, Img Alt tag (ใส่เพื่อให้ Google เข้าใจภาพของคุณ) และ Keyword Density
Keyword Tools – ตรวจอันดับบน Search Engine หลักๆ ทั้ง 3 ได้ (แต่เครื่องมือตัวนี้ ใช้ไม่ดีเท่าไหร่ มักใช้งานไม่ค่อยได้) ถ้าจะเช็ค Rank ใช้ Google Free Monitor ดีกว่าเยอะเลย แต่ถ้าจะผลบน Local Search Engine อย่าง Google.co.th ของไทย ก็คงต้องใช้ได้ไม่กี่ตัว หนึ่งในนั้นคือ Rank Tracker จาก Link Assistant ใช้ฟรี แต่ Save โปรเจคไม่ได้ และออฟชั่นหายนิดหน่อย
Meta Tags Tool – เอาไว้เพื่อสร้าง Meta Tags ให้ SEO สุดๆ อย่างอัตโนมัติ แค่ใส่ Keyword เข้าไปให้มันสร้างให้ได้เลย ลองกันเอาเองนะครับ ปกติผมจะเขียน Meta Tag เองจากการดูเว็บคู่แข่งเป็นหลัก แล้วปรับแต่งจากจุดนั้น
Statistic Tool – ส่วนเครื่องมือตัวสุดท้ายจาก Visible.net ก็จะช่วยคุณได้ในเรื่องการวิเคราะห์ความนิยมของเว็บจากการดูลิงก์ที่โยงเข้า มา พูดอีกอย่างคือ เครื่องมือเช็ค Backlink นั่นเอง แต่อย่าไปคาดหวังอะไรกับมันว่าข้อมูลจะครบถ้วนกระบวนความตามใจฝันมากนะครับ ถ้าอยากเช็คละเอียดๆ ก็คงต้องเป็นซอฟท์แวร์ที่มีราคากว่านี้ นี่มันของฟรีนะคร้าบบ
2. GoogleRankings.com – Ultimate SEO Tool

เครื่องมือฟรีๆ อย่าง GoogleRankings.com - Ultimate Seo Tool เป็นเครื่องมือที่เก่าแก่ตัวหนึ่งในวงการ SEO มันช่วยชีวิตผมมาได้หลายครั้งจากคำถามของลูกค้าที่ว่า เว็บเพจของเขานั้นมี Keyword อะไรบ้างแล้วมีความหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน (Keyword Density %) ที่ตรวจจับคำภาษาไทยได้แม่นยำมากทีเดียว
ซอฟท์แวร์ Web base เพื่อเอาไว้ตรวจเช็คสภาพเว็บ และทำรายงาน Baseline ส่งลูกค้า สองตัวนี้ก็เป็นแค่สองตัวในล้านบนโลกออนไลน์ที่ยังมีให้เลือกใช้อีกมาก ถ้าคุณเผอิญไปเจออะไรดีๆ แพงๆ อย่าลืมเอามาแชร์ก้นด้วยนะครับ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมต่อไปในการพัฒนาคนในชาติครับ

เครื่องมือ SEO ฟรีอื่นๆ

  1. SEOBook กับเครื่องมือ SEO อีกชุดใหญ่ เช่น Spider test, robot.txt tool, page comparison tool Keyword list cleaner ฯลฯ ดูภาพfree seo tools
  2. Webconfs กับเครื่องมือเช็คเว็บเพจอีกเป็นสิบๆ ตัวให้คุณเลือกใช้ ฟรี!
  3. SEObench กับเครื่องมือเช็คเว็บเพจอีกเป็นสิบๆ ตัวให้คุณเลือกใช้ ฟรี เช่นกัน!
  4. หนีความจำเจเพื่อหานิช Keyword แปลกๆ ออกไปอีก ลองที่ WordStream ฟรี
  5. SEO Powersuite กับเครื่องมือ SEO ระดับเทพ ฟรี แต่ตัดเรื่องการ Save และอื่นๆ ออก
  6. อื่นๆ ลองลิสจากเว็บ SEO ดังซักหน่อย A complete list of world seo tools และลิสดีๆ จาก Smashing Magazine
  7. สุดท้ายอย่าลืมเข้าไปที่หน้าโหลด Chrome Extension แล้วหาคำว่า SEO ดู เผื่อเจอเนื้อคู่ซอฟท์แวร์ SEO ดีๆ สำหรับคุณอีกหลายตัว (ช่วงนี้ 1st July 2012 – ผมใช้ Safari แทนแล้ว Chrome ปัญหาเยอะมากเลย)
อ้อ…ลืม ให้ลิสเครื่องมือ SEO อื่นๆ อีก ดูด้านล่างนะครับ และอย่าลืมว่า เครื่องมือ มันก็แค่ยานพาหนะให้งานลุล่วงเท่านั้น อย่าไปคิดมากเกี่ยวกับมัน ใช้ให้ได้ประโยชน์ที่สุด และทุกตัวมันก็จะเก่งไม่เหมือนกัน การเลือกกันเอาเองคือทางสว่างของแต่ละคนครับ
Keyword Research
Site Check
Link Tools
Rank Checker
Analytics
  • Google Analytics
  • Woopra
  • Piwik (ต้องมีโฮสติดตั้งเอง)
  • Alexa (เอาไว้ดู Traffic Rank ซับมิทเว็บคุณฟรีๆ ได้)
Various

SEO เพื่อธุรกิจหน้าใหม่

SEO เพื่อธุรกิจหน้าใหม่

 seo for start ups
มีคำถามในอีเมลผมมากมายที่มักถามเรื่อง SEO สำหรับธุรกิจใหม่ๆ ธุรกิจเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นตั้งแต่เป็นร้านค้า e-commerce ไปจนถึงธุรกิจที่มีเป้าเงินล้าน ซึ่งล้วนมีเป้าหมายไม่ต่างกันคือการได้แจ้งเกิดบน Google เพราะ Google Search คือบ่อข้าวบ่อน้ำที่ดีที่สุดในวันนี้ในการหาลูกค้านั่นเอง ทั้งค่า Conversion ทั้งจำนวนผู้คน สูงกว่าที่อื่นๆ ใดๆ ทั้งหมดบนโลกออนไลน์ ใครเป็นจ้าวบน Google ได้อันดับแรกไป ถือเป็นมีชัยไปกว่า 70%
คนส่วนใหญ่พอมองมาที่ Google ก็จะมองหาผลประโยชน์ก่อน ซึ่งผิด เพราะหลักการอย่างแรกสำหรับทุกคนที่สนใจในเรื่อง SEO เพื่อธุรกิจตัวเองมีง่ายๆ ตรงที่ให้มองไปที่ ‘การให้’ ก่อน ซึ่งถือเป็นหลักการที่ทำงานได้ดีและเร็วที่สุดในการจะเอาใจ Search Engine อย่าง Google ถ้าคิดแต่จะมาเอาไปตั้งแต่แรก ทุกอย่างมันจะเป็นเรื่องยากไปหมด เพราะคุณไปเริ่มต้นผิดจุด เหมือนคนทุกคนที่มีปมของตัวเอง กระตุกเส้นผิดมันก็ยากไปหมดที่จะให้ได้ผลดั่งใจ
แล้ว ‘การให้’ คืออะไร ทำไมมันสำคัญต่อการทำ SEO ก็เพราะทุกวันนี้คนต่างเข้ามาที่ Google เพื่อหาคำตอบอะไรบางอย่างกันทั้งนั้น เว็บคุณมีหน้าที่ในการให้ ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ ที่จะตอบคำถามกับคนส่วนใหญ่ในวงการของคุณได้ตรงจุด อย่างไม่อ้อมค้อมและ ก่อนอื่นจะต้องไม่อยู่ บนพื้นฐานของการหาผลกำไรเพราะมันหมดยุคแบบนั้นไปแล้ว สมัยนี้มันคือการซื้อใจด้วยการเป็นผู้ให้ก่อน คุณจะได้ใจทั้งผู้ชมเว็บ และ Google ไปในเวลาเดียวกัน แบบว่ายิงนัดเดียวได้นกสองสามตัวเลย
ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะเปิดเว็บเพื่อธุรกิจของคุณ ผมแนะนำให้มองที่จุดนี้ก่อนเป็นอันดับแรก ว่าถ้าเปิดเว็บใหม่นี้ขึ้นมา เว็บคุณจะช่วยเปลี่ยนชีวิตใครได้บ้างในกลุ่มตลาดที่คุณกำลังจะทำธุรกิจ ถ้าไม่มี พักก่อน แต่อย่าหยุดคิด คิดให้ออกแล้วค่อยว่ากันใหม่ มันก็แค่นึกให้ออกว่าลูกค้าของคุณเขามักหาคำตอบในเรื่องอะไรบ้างเท่านั้นเอง เว็บคุณมีหน้าที่ๆ จะนำเสนอเนื้อหาเหล่านั้น และนี่ไม่ใช่แค่คำพูดให้ดูดี แต่มันคือเทคนิคและหลักการที่ใช้ได้จริงมาแล้วนักต่อนัก มันคือสิ่งที่ Google โปรดปรานที่สุด (เนื้อหาที่ดีมีประโยชน์ที่คนเห็นแล้วอยากแชร์)
ไม่งั้นคุณจะต้องเดินทางอ้อมเป็นร้อยกิโล เสียเงินทองอีกมากมายในการจะได้เป็นจ้าวแห่ง Google ในวงการของคุณ เอาแค่นี้ไปคิดก่อนครับ คราวหน้าจะมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ผมจะมาเล่าให้ฟัง

10 เรื่องที่ต้องทำเพื่อเอาใจ Panda

10 เรื่องที่ต้องทำเพื่อเอาใจ Panda


มีเจ้าของเว็บมากมายที่รู้รสชาติของการโดนเขี่ยทิ้งให้หล่น Rank จากการเปลี่ยนแปลงกลไกการจัดอันดับ Google  Penguin เมื่อไม่นานมานี้ แต่อย่าลืมว่าแม้ Penguin จะมาก็ไม่ได้หมายความว่า Panda จะหายไป ทำให้หลายคนลืมสรรพคุณการกำจัดเว็บของ Panda นั่นคือมุ่งเป้าไล่จับเว็บ Duplicate Content หรือเว็บที่มีเนื้อหาไม่ได้คุณภาพ เว็บปั่นอะไรพวกนั้นนั่นเอง
ต่อไปนี้คืออัปเดทล่าสุด ในสิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันตัวเองจากการหล่นอันดับบน Google มีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญๆ ก็ยังเหมือนเดิมอย่างที่ผมย้ำมากในพักหลังในเรื่องบทความบนเว็บที่เป็นสิ่ง แรกที่เว็บทุกเว็บควรให้ความสำคัญ
ดูภาพกันดีกว่าครับ เริ่มจากสิ่งที่ควรทำไปถีึง timeline ของ Panda


Signup Process Optimization

Signup Process Optimization


เว็บทุกเว็บมีเป้าหมายของมัน แม้แต่เป้าหมายเล็กๆ แค่ Traffic วันละ 10 คนก็ถือเป็นเป้าหมาย และต้องทำให้ได้ถ้าได้ตั้งเอาไว้ ไม่งั้นจะมีประโยชน์อะไรใช่ไหม แต่ก็มีเช่นกันกับเว็บที่ไม่ได้คิดอะไร สร้างมาก็เพื่อความสะใจของตัวเอง ซึ่งเราคงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงเว็บพวกนั้นเพราะมันไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ อะไร
signup-simple-process

ตัวอย่างฟอร์มที่ให้ค่า Conversion สูง
เว็บใดก็ตามที่มีเป้าหมาย ก็ย่อมต้องมีเรื่องของ Conversion rate เข้ามาเกี่ยวเพื่อเอาไว้วัดความสำเร็จจากสิ่งที่จะนำมาซึ่ง…จำนวนคลิก จำนวนรายได้จากคลิก หรือจำนวนสมาชิกที่สมัครมากขึ้นที่ผมจะพูดสั้นๆ ในโพสวันนี้
พักหลังมานี้ จากการได้ดูบอลยุโรปมาหลายๆ นัด มันก็ทำให้ผมคิดอะไรได้บางอย่างว่า ทุกอย่างที่มีเป้าหมายล้วนมีค่า Conversion Rate ทั้งสิ้น แม้แต่การเล่นบอลในสนามก็เหมือนก้บการสร้าง Conversion Rate เพราะยิ่งคุณครองบอลได้นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสร้างโอกาสให้ค่า Conversion rate (เป้าหมายคือการยิงประตูได้) ให้สูงมากเท่านั้น และก็เหมือนกับทุกเรื่องบนโลกใบนี้ที่มีเป้าหมาย การจะสมัครงานให้ได้ ก็ต้องให้แน่ใจว่าคุณไปสมัครให้หลายๆ ที่ๆ สุด หรือการทำ AdSense ก็คือการสร้าง traffic ให้ได้มากที่สุดก่อน ฯลฯ
แต่ที่ผมจะพูดคือ เรื่องของ Signup Process Optimization ที่จะนำมาซึ่งค่า Conversion rate ของการสมัครที่มากขึ้น สำหรับผู้ออกแบบเว็บที่มีการสมัครสมาชิก (และพวกทำ Landing Page Optimization ให้กับเว็บบริษัทต่างๆ อย่างที่ผมกำลังทำอยู่) ซึ่งมีเคล็ดลับที่ควรทำตามง่ายๆ ดังนี้
  1. Label Text ควรจะอยู่ทางด้านบนซ้ายของช่องกรอกเสมอ (ดูตัวอย่างเว็บ eBay)
  2. ขนาด Font ของ Label Text ยิ่งใหญ่ก็จะยิ่งดีเท่านั้น
  3. คนจะกรอกในสิ่งที่เข้าใจเท่านั้น ดังนั้นทำให้แน่ใจว่าคุณเขียนอธิบายแต่ละช่องให้เข้าใจง่ายที่สุด
  4. อย่าถามมากมาย ถามเท่าที่จำเป็นจริงๆ ไม่งั้นคุณจะเสียสมาชิกไปอีก 70% อย่างน้อย
  5. ควรใช้ Drop downlist ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่มีใครมีเวลามานั่งเขียน นั่งพิมพ์หรอกครับ
  6. Balloon text อธิบายแต่ละช่องจะช่วยนำทางผู้สมัครให้ไม่หลงทางได้
  7. ทำอะไรให้มันสมเหตุสมผล ถามตัวเองว่าถ้าจะให้คุณกรอกขนาดนี้ ขนาดนั้น จะทำหรือเปล่า หาเหตุผลที่ดีให้กับคนกรอกด้วย เช่น Incentive Offer กรอกแล้วได้อะไร บอกเขาแต่เนิ่นๆ ไม่มีใครมีเวลาหรอกครับวันนี้ ในยุคของโลกออนไลน์ที่ฉาบฉวยเสมอ
  8. ออกแบบก่อนด้วยการใช้ Flowchart เสมอ จะได้เข้าถึงจิตใจผู้กรอกฟอร์มก่อนจะลงมือทำ (ดูภาพ)
  9. ใช้ประโยชน์จากการเปรียบเทียบ Conversion จากการจัดวางเว็บเพจด้วย A/B Testing กับ Google WebOptimizer
signup-process-seo

สิ่งที่อยากจะฝากไว้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะทำเรื่องไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องของ Conversion การทำเว็บเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการนั้น ต้องมีเป้าหมายชัดเจน การที่จำนวนสมาชิกมากขึ้น หรือน้อยลงในแต่ละเดือนมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของดวง แต่เป็นเรื่องของการทดสอบ ค้นคว้า และก็ไม่จำเป็นจะต้องลองผิดลองถูก เพราะเขามี research มากมายที่บอกคุณได้ทันทีว่าอะไรที่ดีกว่า เปลี่ยนตรงโน้นนิด ได้มาก 1% conversion เปลี่ยนตรงนั้นอีกหน่อยได้มากอีก 2% conversion รวมกันแล้วก็กลายเป็นตัวเลขที่เยอะได้
อย่าลืมว่า รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แม้แต่ขนาดตัวหนังสือ ก็สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างแคมเปญที่ล้มเหลวกับแคมเปญที่ประสบความ สำเร็จได้ และความสำเร็จมักจะอยู่กับผู้ที่…ใส่ใจในรายละเอียด เท่านั้น

Google Penguin Update

Google Penguin Update

google-penguin2
Google ได้ประกาศเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาว่าจะปล่อยอัลกอริทึมการค้นหาแบบใหม่ที่ หวังว่าจะจับพวกสแปมได้มากขึ้น Google กล่าวว่า “Penguin update” หรือที่สำหรับ Google จะแปลกว่า “webspam algorithm update” จะส่งผลกระทบประมาณ 3% ของคำค้นหา
Google บอกไว้ว่า เรากำลังเปิดตัวอัลกอริทึมที่จะเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลให้เว็บที่ไม่ได้ คุณภาพมีอันดับดิ่งเหวลง (โชคดี เว็บแย่ๆ ของผมหลายที่ยังไม่โดน) และนี่ก็เป็นแค่อีกการเปลี่ยนแปลงกที่จะช่วยให้ผลการค้นหามีคุณภาพมากขึ้น ทำให้เว็บหันมาทำเนื้อหาคุณภาพกันมากขึ้น

Spam ไม่ได้เหมือนกับ Over Optimized

หลายคนคงได้ยินกันหนาหูเกี่ยวกับเรืื่องการทำ SEO มากไปจนผิดสังเกุตก็อาจส่งผลเสียต่ออันดับ Ranking ได้ แต่ Google ได้บอกไว้ว่า การทำเว็บสแปม กับการทำ SEO มากไปนั้นต้องแยกพวกกันให้ดี ไม่งั้นคนที่ทำ SEO อย่างขาวสะอาดอาจจะเสียขวัญได้ และการทำ SEO มากไปก็ยังไม่ถึงกับจะส่งผลเสียอะไรให้คุณนอกซะจากคุณจะทำความเสียหายให้ ผลลัพธ์การค้นหาเกิดขุ่นหมองหรือผิดกฎ Google จริงๆ

แล้วต่อจากนี้ล่ะ SEO จะยังไง

แม้ Google จะไม่มีรายได้จากการแนะนำให้เราทำ SEO แต่มันก็สำคัญมาก เพราะถ้าเว็บทุกคนแปรับแต่งให้ค้นหาง่าย มันก็จะทำให้คนใช้ Google ยินดีไปด้วย ที่จะส่งผลให้ Google เป็น Search Engine อันดับหนึ่งไปอีกนาน
อย่างไรก็ตามก็ถือว่า Google ยังจะเห็นใจคนทำ SEO ต่อไป และยังแนะนำให้ทุกคนทำตามคำแนะนำในการปรับแต่ง: SEO best practices คำ แนะนำจาก Google ก็คือ เว็บคุณภาพเท่านั้นที่จะอยู่ยง และแนะนำให้เน้นทำ SEO รองจากความสำคัญของเรื่องคุณภาพของเนื้อหา และคุณภาพของเว็บไซต์ เช่น การใช้ง่าย การน่าใช้ของตัวเว็บเอง ที่จะทำให้ผู้ชมติดใจกลับมาเยี่ยมแล้วเยี่ยมอีก
แต่ Google Penguin นั้นจะมีผลที่สุดกับเว็บภาษาอังกฤษ เยอรมัน จีน และ อาราบิค คนทำเว็บไทยก็ถือว่ายังอยู่นอกเรด้าของ Google Penguin และอาจจะอยู่สบายๆ ไปได้อีกพักใหญ่ๆ เลยล่ะ

Search Engine Optimization by Common Craft

Search Engine Optimization by Common Craft

วีดีโอนี้อุทิศให้ทุกคนที่ถามว่า SEO คืออะไร ผมได้วีดีโอนี้มาจาก Common Craft ที่ทำวีดีโอสอนเรื่องต่างๆ มากมายที่มีประโยชน์ และทำให้เข้าใจง่ายมากๆ แล้วเอามาใส่ Sub Title ไทยซะ หวังว่าหลายคนคงจะชอบ ผมจะหามาอีกครับ มีอีกเพียบเลย น่าสนใจทั้งนั้น แต่เอาเรื่อง SEO ง่ายๆ ไปดูกันก่อน
[youtube video="eEeAHXRWYYQ" width="500" height="350" /]

ซุปเปอร์ดีแม็ก ยาเพิ่มขนาด 1000 Niche Keyword Secret หนังสือใหม่

ซุปเปอร์ดีแม็ก $1000 Niche Keyword Secret หนังสือใหม่ เสร็จจนได้ หนังสือเล่มใหม่อีกเล่มที่ผมเขียนหลังจาก 1 ปีกว่าที่ไม่ได้เขียนอะไรเสร็จซักอย่าง สู้กับใครก็ไม่เท่าสู้กับตัวเองนี่แหละเหนื่อยที่สุด และใครที่รอหนังสือ SEO 2012 อยู่ กำลังจะตามมานะครับ ใกล้ความจริงแล้ว กำลังอัปเดทเนื้อหาอีกซัก 2-3 บท เพราะมีเรื่องใหม่ๆ หลายเรื่องที่ต้องพูดเกี่ยวกับ SEO ในปีนี้ หนังสือเล่มที่เห็นอยู่นี้เขียนจากความรำคาญตัวเองที่ไม่เคยมีแผนในการหา ยาเพิ่มขนาด  Keyword ที่มั่นคงซักที หาทีไรเปลี่ยนแผนตลอด นอกจากนั้น

ซุปเปอร์ดีแม็ก มันรวมไว้ด้วยเคล็ดลับการหา Keyword ครอบจักรวาล ใช้ได้ทั้งครอบครัว คิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะข่วยทุกคนที่กำลังอยากรู้วิธีหา Keyword ทำเงินกับ AdSense, Affiliate และอื่นๆ ได้ มาดูเนื้อหาตัวอย่างกันซักเรื่องนึง บังคับ Google แบ่งเงินมาซะดีๆ การดู Estimated Click/Day หมายถึงแนวโน้มของจำนวนคลิกที่แต่ละ Keyword ซุปเปอร์ดีแม็ก น่าจะได้ในแต่ละวัน สามารถหาดูจาก AdWords Traffic Estimator และ spyfu.com โดยปกติแล้วเวลาผมหา Keyword ถ้าจำนวน Click/ Day ไม่มีเลย แถม Sponsors ก็น้อยผมจะไม่ทำ และหา Keyword ใหม่่ แต่ในแง่ของการทำ AdSense ถ้าผมไปเจอ Keyword ที่ถึงแม้จะมี Click/Day น้อย แต่ปัจจัยจำนวนสปอนเซอร์หรือ Advertiser มากล่ะ ผมจะกระโดดดีใจเพราะได้เจอ Keyword ทองคำเข้าให้แล้ว ยาเพิ่มขนาด  นั่นแหละคือที่เขาเรียกกันว่า ” Niche AdSense Keyword” ที่น่าเอามาทำบล็อกหาเงินที่สุด เพราะอะไร?

ซุปเปอร์ดีแม็ก อย่างที่รู้กันว่า Ad ของ Google จะแสดงอยู่สองที่ คือที่เว็บของ Google เอง (Search Network) และเว็บทั่วไปของเราๆ ท่าน (Display Network) ที่เราได้ค่าคลิกกันถูกๆ แบบทุเรศๆ ก็เพราะ Google เก็บโฆษณาที่ค่าคลิกแพงๆ เอาไว้เอง Google จะให้เราทำบ้าอะไร ใช่ไหมล่ะ แบ่งก็โง่ล่ะ หลายคนอาจจะเคยหา Keyword จากค่า CPC ที่เห็นซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้า Keyword แพงๆ Google จะเอาเก็บไว้แน่นอนไม่ให้เราหรอกครับ แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่าเราสามารถบังคับ Google ให้ยอมแบ่ง Ad แพงๆ ให้เราได้ ทำไงล่ะ? Keyword มีสปอนเซอร์มาก แปลว่าในวงการนั้นมีเงินหมุนเวียนจากผู้ลงโฆษณามากซึ่ง Google จะเก็บเงิน 60% ไว้เอง รวมทั้ง Ad แพงๆ อีกด้วย แต่ถ้าพบว่า Keyword นั้นมี Low Click/Day หรือคลิกต่ำพร้อมกับเป็น Keyword ที่มีคนลงโฆษณามาก (High Advertiser) ก็จะดีมาก เพราะนั่นคือ Keyword ที่แปลว่า Google มีคนลงโฆษณา แต่ยังหา Traffic ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ลงโฆษณา ทำให้ผู้ลงโฆษณาไม่เกิดการ Bid ราคากันให้มากขึ้นไปอีกเหมือน Keyword ที่มีคนคลิกสูงต่อวันอยู่แล้ว ทำให้ราคา CPC ของ Keyword นี้จึงติดเพดานและไม่สามารถขยับไปไหนได้ นั่นเป็นสิ่งที่ Google เกลียดที่สุด เพราะนั่นหมายถึงรายได้ของ Keyword นั้นจะหยุดโต ถ้ายิ่งมี ซุปเปอร์ดีแม็ก Keyword แบบนี้มากๆ เข้า Google เจ้งแน่ ดังนั้น Google จำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไอ้ Low Click/Day Keyword พวกนี้มีคลิกมากขึ้นเพื่อที่จะให้คนลงโฆษณาเข้าไป Bid กันให้ Google รวยเอารวยเอาต่อไปได้ และทางออกของ Google มีอยู่ทางเดียวคือ ยอมเลิกขี้เหนียวแบ่ง Ad ที่มีราคาค่าคลิกดีๆ พวกนี้ให้พวกเราที่หาเงินกับ AdSense นั่นเอง นี่คือการบังคับ Google ให้ยอมจำนน ทำให้เราชนะในที่สุด และนี่คือ “AdSense Super Niche Keyword” ที่เราต้องการถ้าอยากได้คลิกแพงๆ $3+ ขึ้นไป ใครสนใจสั่งหนังสือเล่มนี้ อีเมลมาได้ที่: joe@seodml.com สารบัญ Chapter 1: เรื่องสําคัญของ Keyword Internet Marketing ประโยชน์ของ Targeting

ซุปเปอร์ดีแม็กNiche Keyword ดีๆ หมวดหมู่ของ Keyword อะไรคือ Niche ( Niche Keyword) Keyword ที่ดีทีสุดในโลกคือ… คู่แข่ง Keyword ของคุณคือใคร Google Keyword Tool Options วิธีใช้ Google Keyword Tool Chapter 2: Keyword สมบัติผู้ดี จํานวนคํา 3+ (3+ syllables) High Search Volume = High Demand Keyword Match Type Low SEO Competitor ชั่งมัน CPC (cost-per-click) จํานวนคลิกต่อวัน (Click/ Day) สปอนเซอร์เยอะๆ (High Ad Competition) R/S Ratio ต่ําไว้ก่อน KEI สูงไว้ก่อน (Keyword Effectiveness Index) CTR% (Click Through Rate) RPM ประเมินรายได้ Ad Chapter 3: หา AdSense Niche Keywords อะไรคือ AdSense Niche Keyword ขั้นตอนการหา AdSense Niche Keyword เคล็ดลับ AdSense วันละ $15 ต่อ 1 เว็บ ยาเพิ่มขนาด  Niche Market Finder Market Samurai SEO Competitor วิธีจับผิดคู่แข่งด้วย Market Samurai สรุป ผลลัพธ์ Keyword ที่ได้มา สรุปขั้นตอนการหา AdSense Niche Keyword Traffic Share iSpionage.com Chapter 4: หา Super AdSense Niche Keyword อะไรคือ Super AdSense Niche Keyword เคล็ดลับการได้ Ad แพงๆ จาก Google ปัจจัยที่ทําให้ Google แบ่ง Ad แพงให้เรา ขั้นตอนการหา Super AdSense Niche Keyword Traffic Share อธิบายเพิ่มเติม Chapter 5: หาเจอแล้ว Affiliate ยาเพิ่มขนาด  Keyword ความแตกต่างของ Affiliate กับ AdSense ขายสินค้าอะไรดี Affiliate Niche Keyword ที่น่าทํา คุณสมบัติของสินค้า Affiliate ที่ทําเงิน ทําไมสินค้า Best Seller ถึงดีนักหนา สินค้าตามความนิยมคนทํา Affiliate Affiliate Niche Keyword ขั้นตอน 1: ไอเดีย สินค้าขายดีใน Amazon ที่สุดตอนนี้ 2012 Affiliate Niche Keyword ขั้นตอน 2: หา Niche Affiliate Niche Keyword ขั้นตอน 3: หาจุดบอดคู่แข่ง Affiliate Affiliate Niche Keyword ขั้นตอน 4: จํานวนรีวิว หาโดเมนเนมครั้งละ 50 คํา ใครสนใจสั่ง อีเมลมาได้ที่: joe@seodml.com

SEO เพื่อ Bing – Yahoo และ Facebook

SEO เพื่อ Bing – Yahoo และ Facebook

ใครก็มุ่งทำ SEO ไปที่ Google เพราะ Google คือ Search Engine ที่คนใช้มากที่สุด แล้วถ้าเกิดปีหน้ามันเปลี่ยนไปล่ะ เราจะทำอย่างไรกันในการทำ SEO เพื่อ Search Engine อื่นๆ โดยเฉพาะ Bing ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ Search Engine ให้กับ Yahoo และ Facebook เท่านั้น แต่ยังมีสถิติการใช้งานที่เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดถึง 51% ในระยะเวลา 1 ปี (สถิติจากปี 2011 – blog.nieisen.com)
ถ้าถามผมๆ ก็จะบอกว่า ควรทำเน้นที่ Google แล้วก็ Bing แต่ต้องเฉพาะในปัจจัยที่จะไม่ส่งผลเสียต่ออันดับหรือ Ranking ของเว็บคุณบน Google เพราะ Google คือแหล่งที่มาของจำนวนผู้ชมที่คุณไม่สามารถหาที่ไหนได้เยอะเท่านี้อีกแล้วใน ขณะนี้ ถ้า Google ชอบ keyword เยอะๆ แต่ Bing ไม่ชอบ คุณก็ควรจะเอาใจ Google ก่อน แต่ก่อนอื่น ผมแนะนำว่า ควรทำให้เว็บคุณติด Index ครบทุกหน้าจากสองค่ายใหญ่นี้ก่อนเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แต่วิธีอะไรล่ะ?
วิธีทำ SEO สำหรับ Bing vs. Google
การสร้างโอกาสให้เว็บเพจของคุณติด Index ได้ครบทุกหน้าบน Google และ Bing คือการติดตั้ง Webmaster Tools บนเว็บคุณจากทั้งสองค่ายนี้ นั่นคือสิ่งแรกที่คุณต้องทำในการทำ SEO เพื่อเอาใจ Search Engine หลักๆ รวมทั้ง Facebook ด้วย นอกจากนั้นก็จะมีปัจจัยการทำอันดับอื่นๆ ยิบย่อยอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Domain Extension .com ที่ Google จะโปรดปรานเป็นที่สุดในขณะที่ Bing นั้นไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้นัก แต่จะชอบ .org มากกว่า นี่เป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
(นี่คือเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ SEO Advanced – อนุชา ลีวรกุล ที่กำลังจะเขียนเสร็จในเดือนนี้)

Tagged: 12 Comments

You may also like

3 ปัจจัยหลักของการ Rank 1st

3 ปัจจัยหลักของการ Rank 1st


แม้กฎเกณฑ์ในการจัดอันดับ Ranking ของ Google จะมีเป็นร้อยๆ ทั้งที่เรารู้และไม่รู้อีกมาก แต่จากการค้นคว้าหาข้อมูล การทดลองแล้วทดลองอีกจากเว็บเป็นร้อยๆ เว็บ ของผมเองและของคนอื่น ก็รู้ได้ว่า แท้จริงแล้วทั้งหมดทั้งมวล เราสามารถแบ่งปัจจัย Google ที่ให้ความสำคัญได้เป็น 3 เรื่องคือ
  1. ความน่าเชื่อถือ (Credibility) – PageRank ก็คือเรื่องนี้นั่นเอง มันคือชื่อเสียงความดังทั้งทางด้านเทคนิค และทางปากต่อปากของเว็บคุณ ที่จะเกี่ยวกับการทำ SEO Backlinks, การสร้างเว็บที่มีประโยชน์ มีโครงสร้างได้มาตราฐานตราช้าง และในอนาคตอันใกล้นี้จะรวมไปถึงการพูดถึงเว็บคุณตาม Social Network ต่างๆ ด้วย
  2. การเข้าถึงของ Googlebot (Crawlability) - ความยากง่ายในการเข้าถึงเว็บเพจคุณโดย Googlebot ที่จะเกี่ยวกับการทำ SEO ในเรื่องของโครงสร้างเว็บทั้งหมด
  3. เนื้อหา (Content Relevancy) - เนื้อหาที่สอดคล้องกับการค้นหาของเว็บคุณ ที่จะเกี่ยวกับเรื่องการทำ SEO ในการปรับใช้คีย์เวิร์ดเป็นส่วนใหญ่ (keyword density)
ถ้าเว็บคุณมีคุณสมบัติครบทั้ง 3 C นี้ แถมมีมากกว่าเว็บคนอื่นๆ ก็รับรองได้เลยว่า อันดับ 1-10 บน Google จะเป็นของคุณอย่างแน่นอน วันนี้เอาสั้นๆ แค่นี้แหละ

Keyword Mapping – Web Page

Keyword Mapping – Web Page

KeywordSnippet
จะทำ SEO หน้าไหนก่อนดี?
การทำ SEO หรือการปรับแต่งเว็บให้ค้นหาเจอได้ง่ายบน Google ควรจะเริ่มดูทั้งภาพรวม และลงมาดูทีละหน้าด้วย ว่ามันบอกอะไรได้ดีที่สุด (นั่นคือ keyword หลักที่ต้องรู้ให้ได้ก่อน) และห้ามลืมว่า เวลาเราทำอันดับบน Search Engine Result Page (SERP) นั้นเราไม่ได้ทำทั้งเว็บไซต์เสมอไป แต่การทำอันดับมันวัดกันเป็นหน้าต่อหน้า ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ควรจะเริ่มจากโฮมเพจก่อนเป็นหลักเสาเอาไว้เกาะ ถ้าโฮมเพจดัง หน้าอื่นๆ ก็จะได้ผลบุญตามไปด้วยอย่างแน่นอน

จากนั้นก็จะตามด้วยเว็บเพจทำเงินทั้งหลายอย่างหน้าสินค้าแต่ละตัวของคุณ ที่แต่ละหน้าย่อมต้องมีหน้าที่ของมันในการขาย ไม่ควรเอามาปนกันซะหมด (สำคัญมาก) ไม่งั้นเมื่อ Search Engine Bot มองเข้ามาที่เว็บเพจทำเงินของคุณ มันจะสับสนว่าตกลงจะจัดอันดับให้เว็บเพจนี้ด้วยคีย์เวิร์ดอะไรดี เห็นมีตั้งหลายแบบหลายคำเต็มไปหมด ดังนั้น จะต้องมีการเล่นเกมจับคู่ระหว่าง keyword และเว็บเพจแต่ละหน้า หน้าหนึ่งสามารถมี keyword ทำเงินได้ถึง 4 คำ และไม่ควรต่ำกว่า 2 คำ จะได้มีหลายหัวช่วยกัน ไม่ใช่เล่น keyword เดียวต่อหน้า มันจะให้น้ำหนักน้อยเกินไป
ยกตัวอย่างเช่น หน้าหนึ่งอาจขายรองเท้าวิ่ง อีกหน้าหนึ่งอาจขายรองเท้าเตะ ทั้งสองเว็บเพจนี้คือหน้าทำเงินของคุณ สิ่งที่้ต้องทำอย่างแรกคือ หาคีย์เวิร์ดให้แต่ละเว็บเพจนี้ซะก่อน ว่ามันควรจะใช้คีย์เวิร์ดอะไรถึงจะดีที่สุด (ผมจะใช้ excel ทำ template ไว้) นั่นแหละคือการมาของขั้นตอนการหาคีย์เวิร์ดให้เว็บเพจแต่ละหน้า หรือที่เรียกว่า Keyword Mapping ซึ่งเป็นขั้นตอนชี้เป็นชี้ตายความสำเร็จในการทำ SEO ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นกันเลย

สรุปขั้นตอนการปรับแต่งเว็บเพจ SEO ในเบื้องต้นก็คือ

  1. หา keyword ให้โฮมเพจ
  2. หา keyword ของแต่ละเว็บเพจ
  3. จับ keyword มา map กับเว็บเพจ (keyword mapping)
  4. สร้าง meta tag ด้วย excel template – download – (หรือใช้ซอฟท์แวร์ช่วย)

ซอฟท์แวร์ช่วย Keyword Mapping

ถ้าคุณมีเว็บไซต์อยู่แล้วเป็นสิบๆ เป็นร้อยๆ หน้าแต่ไม่เคยใส่ใจในเรื่อง Keyword Mapping เลย มันก็ถึงเวลาแล้วที่จะทวงเอา Traffic ที่คุณควรจะได้มานานแล้วกลับมาเป็นของคุณ ยิ่งเว็บเพจแต่ละหน้าคุณ map และทำ Meta Tag ได้ดี คุณจะสามารถเพิ่ม Traffic ได้ถึง 40-50% เลยทีเดียว และซอฟท์แวร์ที่จะช่วยคุณได้ก็คือ WebCEO, SEOEffiect.com (ดีที่สุดในโลก แต่จะ advanced มากๆ – free/paid online tools) และ IBP ที่จะสแกนแต่ละเว็บเพจของคุณว่ามันมี Keyword Density แค่ไหน จากนั้นมันก็จะหา Keyword ที่ดีที่สุดให้หน้าละ 3 คำให้คุณเอามาพิจารณาว่าควรจะใช้คำไหนบ้างในแต่ละหน้า WebCEO สามารถทำได้แม้กระทั่งอัปโหลด Meta Tag ให้คุณได้เหมือนกับการทำเว็บด้วย Dreamweaver กันเลยทีเดียว

สูตรสำเร็จการทำ Ranking

สูตรสำเร็จการทำ Ranking


 

หลังจากเขียนบทความน้อยลง วันนี้ระหว่างที่กำลังนั่งเขียนหนังสือเล่มใหม่ (Advanced SEO) ก็เห็นว่าบทความหัวข้อนี้ช่างน่าเอาลงบล็อกซะจริงๆ ผมเลยเอามาย่อให้มันสั้นลง แล้วก็เอามาลงบล็อก DML อย่างที่เห็นไปกันเลยครับ
การทำ Ranking แบบ White Hat สุดๆ มีสูตรสำเร็จง่ายๆ ซึ่งส่วนผสมหลักก็มีสองอย่างด้วยกันคือ Relevancy (ความสอดคล้อง) + Reputable (ความขึ้นชื่อรือชา) ความสอดคล้องนี้จะหมายถึงเรื่องของ Keywords ทั้งหมดที่เราต้องทำ SEO และ Reputable ก็จะหมายถึงจำนวนลิงก์ (Backlink) นั่นเอง

เว็บเพจซักหน้า จะมีโอกาสให้ค้น เจอได้มากน้อยแค่ไหนจาก Search Engine อย่างแรกมันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องของความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดในส่วนโครงสร้าง ต่างๆ บนเว็บเพจ ตั้งแต่หัวเพจไปจรดเท้า (ดูตารางด้านล่าง) ที่ต้องไม่มากไม่น้อยจนเกินไป (จะให้ง่าย มีมากไว้ก่อน โดยใช้เทคนิค Keyword Cluster: การใช้ Synonyms หรือ Relate keword ผสมด้วยจะทำให้ใส่ keyword ได้มากโดยไม่เรียกว่า spam) บวกกับการรู้จักผสมผสานเอาคีย์เวิร์ดที่มีความหมายใกล้เคียงกันมาใช้ได้อย่างพอเหมาะลงตัว (การใช้ Relate Keyword หรือ Synonym Keywords อ่านที่นี่) นั่นคือความหมายของความสอดคล้องหรือ Relevancy แต่สอดคล้องอย่างเดียวคงไม่พอ ไม่งั้นทุกคนคงขึ้นหน้าแรก Google กันหมดพอดี ดังนั้น สูตรสำเร็จของการทำ Ranking ก็ต้องยังมีอีกเรื่อง ซึ่งก็คือ Reputable

เพื่อให้การอธิบายนี้ชัดเจนขึ้น ผมภูมิใจนำเสนอตารางที่ผมทำขึ้นเอง ที่เป็นการประมาณตัวเลขคะแนนที่ Google จะให้คะแนนแต่ละเว็บเพจที่ติดอันดับบนหน้า SERP ที่ได้จากการทดสอบจากการทำเว็บของผมเองเป็นร้อยๆ เว็บ ได้ออกมาเป็นอัตราส่วนของคะแนนความสำคัญต่างๆ ในปัจจัยทั้งสอง

:ส่วนผสมของRanking ในเรื่อง Relevancy Google โดยประมาณ:
Content Relevancy Elements ส่วนผสม
Domain/Sub Domain/Directory/File Name 20%
Meta Title Tag 25%
Meta Description Tag 15%
H1 10%
Content + Keyword Density 20%
Bold Keyword 7%
Alt Tag 3%
:ส่วนผสมของRanking ในเรื่อง Reputable Google (Backlink – PageRank) โดยประมาณ:
Reputable Elements ส่วนผสม
ประเภท Backlink (Anchor text Backlink) 30%
จำนวน Backlink 40%
Backlink from Relate Page 20%
PageRank 10%

แม้ตารางส่วนผสมสูตรสำเร็จในการทำ Ranking (Ranking Ingredient) ด้าน บนทั้งสองจะเป็นแค่การประมาณเอาเอง แต่มันก็มาจากประสบการณ์ของผมเองจากการทำเว็บมาหลายปี ผมก็หวังว่าตารางทั้งสองนี้คงทำให้หลายคนคงเข้าใจถึงความสำคัญของปัจจัยการ ทำ SEO ได้ชัดเจนกันมากขึ้น เพราะคำถามที่พบบ่อยในการทำ SEO นั้นก็คือเรื่องความสำคัญก่อนหลัง อะไรที่ขาดได้ไม่ได้ อะไรที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก สอง สาม สี่ในการทำ SEO

แต่ทีนี้ ก็ต้องเกิดความถามตามมาอีกว่า แล้วระหว่าง Relevency กับ Reputableนั้น Googleให้ น้ำหนักไปทางไหนมากกว่ากัน ผมคงจะกลายเป็นคนโกหกถ้าผมสามารถบอกถึงตัวเลขที่แน่นอนได้ เพราะไม่มีใครบอกได้หรอก ผมเพียงบอกได้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่าในการ Rank ของ Google ความ Relevency น่าจะอยู่ที่ 60% และ Reputable น่าจะอยู่ที่ 40% พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆ ได้ว่าGoogle ให้ ความสำคัญกับเนื้อหามากกว่าจำนวนลิงก์นั่นเอง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้นทั้งหมดสำหรับทุกๆ เว็บ เพราะยังมีกรณีพิเศษอีกมากมาย เช่น ถ้าคุณคิดค้นเว็บที่อยู่ๆ ได้รับความนิยมมีคนเข้าวันละเป็นล้านคน ผมว่า Google ไม่ให้ Rank ดีๆ ก็แปลกแล้วล่ะ

นอกจากนั้นอย่าลืมด้วยว่า Relevency ตัวนี้ก็จะรวมถึงเรื่องความมีประโยชน์ของเว็บเข้าไปด้วย (Content Usefullness) อย่างเว็บ Facebook หรือ Amazon ที่ Google ให้ค่า Ranking สูงถึง 8-9 แน่ นอนว่าไม่ใช่เพราะมีลิงก์เข้ามาเยอะ แต่เป็นเพราะเป็นเว็บที่มีเนื้อหาหรือเป็นเว็บที่เป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ด้วยนั่นเอง อ้อ และนี่ก็คือหลักการของ SEO White Hat นะครับ ไม่ใช่อย่างอื่น เพราะถ้าคุณมีเนื้อหาที่ไม่น่าอ่าน คุณก็ควรจะไปเน้นที่การหา KW niche ดีๆ ที่คนคู่แข่งยังน้อย และหาฝากลิงก์เยอะๆ เอาก็จะทำให้สร้าง Traffic ได้ดีเช่นกัน